Green Ocean Strategy

(www.greenoceanstrategy.org)

ไขกลยุทธ์ 3 C “Company- Customer- Competitor” เพื่ออนาคต สู่องค์กร “Green Strategy”


กูรูด้านการตลาดไขกลยุทธ์ “Green Ocean” ชู 3 C “Company- Customer- Competitor” เดิมเกมการตลาดแห่งอนาคต ย้ำ 10 ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ผู้ประกอบการต้องตระหนัก พร้อมสร้างสำนึกบุคลากรในองค์กรให้รู้ว่าจะอยู่รอดได้ในวันหน้าด้วย “Green Strategy” เท่านั้น

ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด บรรยายเรื่อง “Green Ocean : การตลาดแห่งอนาคต” ในงานสัมมนาในโครงการ” Green Industry” ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าการทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรือธุรกิจสีเขียวต้องยึดหลัก 3 C คือ หนึ่ง Company ด้วยการถามตัวเองว่าบริษัทของเราเสนออะไรให้กับลูกค้า เช่น ขายความถูกอย่างเดียว ซึ่งเมื่อโรงงานต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 บาท จึงจะขายความถูกอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องตอบให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร เช่น รถซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ ซึ่งขายความเกินคุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยการให้ทั้งความสวยและของดี จึงเป็นรถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Car) ที่คนแสวงหาในวันนี้

รวมทั้ง เรื่องของโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ยกตัวอย่าง แบรนด์ดังระดับโลก เช่น Zara Guess และNike ได้รับผลกระทบทันทีเมื่อโรงงานในบังคลาเทศเกิดปัญหาและพบว่ามีการดูแลพนักงานไม่ถูกต้องตามแนวทางปฎิบัติที่ดี เช่น ไม่มีการป้องกันสารพิษให้กับพนักงาน ส่งผลให้บริษัทต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้โรงงานมีกำไรเพียงพอกับการนำไปลงทุนในการดูแลพนักงาน ดังนั้น โรงงานที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะเกิดปัญหามากขึ้น

สอง Customer ด้วยการตอบให้ได้ว่าลูกค้าหลักของเราคือใคร ? เป็นต่างประเทศหรือในประเทศ เช่น ตลาดคอมพิวเตอร์ในอนาคตจะเติบโตน้อยมาก มีตัวอย่างเดลคอมพิวเตอร์ยังต้องซื้อบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์เพราะตลาดคอมพิวเตอร์ตกต่ำ สำหรับผู้ประกอบการที่ทำฮาร์ดดิสก์ต้องรู้ว่าฮาร์ดดิสก์จะเติบโตน้อยลง เพราะระบบคลาวด์เข้ามาทดแทน ขณะที่ เทรนด์รถยนต์จากนี้คือการใช้พลังงานอื่นแทนน้ำมัน เช่น รถไฟฟ้า รถน้ำ เป็นต้น จะมา การเติบโตของโทรศัพท์มือถือจะลดลง โทรศัพท์มือถือที่จะเติบโตคือแบบราคาถูก

นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างเป็นทางการ จะทำให้ภาษีนำเข้าลดลงเหลือศูนย์ หากลูกค้าหลักเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนไปจะทำอย่างไร? หรือพม่าจะแก้รัฐธรรมนูญ การลงทุนจะเคลื่อนเข้าไปในพม่าอย่างมากเนื่องจากประธานาธิบดีเต็งเส่งต้องการให้นางอองซาน ซูจีสามารถเป็นประธานาธิบดีได้ เพราะเธอคือแบรนด์แอมบาสเดอร์ของพม่า หมายถึงจะเป็นตัวดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ประกอบกับปัจจัยสนับสนุน เช่น ท่าเรือสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศหลักๆ เช่น ท่าเรือทวาย ดังนั้น จึงควรจะดูว่าซัพพลายเชนของเราจะเคลื่อนย้ายตามไปหรือไม่

สาม Competitor ต้องอ่านกลยุทธ์ให้แตก ต้องรู้ว่าคู่แข่งของเราเก่งอะไรและทำอะไรที่เราทำไม่ได้ เช่น การลดต้นทุนให้ถูกลงได้หรือไม่ ต้องรู้ว่าคู่แข่งขันขายอะไร เช่น ขายความถูก ฯลฯ มีบริษัทที่บอกว่าสิ่งที่ทำได้ดีคือการผลิตตามที่ลูกค้าต้องการได้เร็วที่สุด เร็วกว่าคู่แข่ง แต่ตอนนี้ลูกค้าต้องการให้คิดให้ด้วย เช่น โรงงานผลไม้อบแห้งบอกว่า “เราไม่รอให้ลูกค้าสั่ง เราทำขึ้นมาเลย เขาจึงทำข้าวแต๋นหน้าผลไม้อบแห้ง เราต้องคิดให้เกินกว่าที่ลูกค้าสั่ง” ต้องคิดให้ก่อนที่ลูกค้าจะสั่งคือสิ่งที่ต้องทำให้ได้ในวันนี้เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่งขัน

“ดังนั้น 3 C คือบริษัทของท่านขายอะไร ลูกค้าของท่านคือใคร และคู่แข่งขันของท่านเป็นกรีนหรือไม่ เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเราหรือไม่ ราคาถูกกว่าเราหรือไม่? ถ้าเราลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพไม่ได้ ควรจะเปลี่ยนเป็นรับมาขาย สำหรับเออีซีส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมอย่างสูง การลดภาษีหมายถึงหายนะของบางประเทศ ซึ่งบริษัทใหญ่จะได้เปรียบ ส่วนบริษัทเล็กไม่ค่อยได้เปรียบจากเรื่องนี้”

“สรุปว่า บริษัทที่ฉลาดจะสร้างความได้เปรียบด้วยการบริหารจัดการความท้าทายเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อต้องการเป็นกรีนให้ถือว่ากรีนอยู่ในกลยุทธ์ธุรกิจ เป็น Green Strategy ต้องรู้ว่าจะบริหารทรัพยากรธรรมชาติให้ดีที่สุดได้อย่างไร เพราะถ้าทำไม่ดีจะถูกหมายหัว โดยเฉพาะในต่างประเทศมีเครือข่ายแข็งแรงมาก เมื่อเกิดการต่อต้าน ธุรกิจเสียชื่อและถึงขั้นปิดกิจการ และสร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างสำนึกแห่งการเร่งรีบ ให้รู้ว่าถ้าเราไม่เป็นกรีนแล้วทั่วโลกเป็นกรีน ในอนาคตบริษัทเราจะอยู่ไม่ได้”

สำหรับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ( Environmental Issue) ที่น่าสนใจ 10 เรื่อง ได้แก่ หนึ่ง- Climate Change โรงงานของท่านปล่อยสารพิษสู่ชั้นบรรยากาศหรือไม่ สอง- Energy ธุรกิจของท่านใช้พลังงานสะอาดหรือไม่ สาม-Water โรงงานของท่านปล่อยน้ำเสียหรือไม่ สี่- Biodiversity ความหลากหลายทางชีวภาพ และการใช้ที่ดิน ห้า-Chemical Toxic วัตถุเป็นพิษที่ออกมาจากโรงงาน หก-Air Polluting การปล่อยของเสีย การขายคาร์บอนเครดิต เจ็ด-Waste management การกำจัดกาก สารพิษ และขยะที่เป็นพิษได้ดีเพียงใด แปด-Ozone Layer Depletion การทำลายชั้นบรรยากาศ เก้า- Coast Depletion ทำลายชายฝั่ง และสิบ- Forest Depletion ทำลายป่า


[Original Link]